รีวิวจากแดนหมีขาว: เจาะลึก 'วอนซาน คัลมา' รีสอร์ตลับของคิมจองอึน ค่าใช้จ่ายและการดูแลที่คาดไม่ถึง

การเดินทางสู่ "วอนซาน คัลมา" รีสอร์ตริมชายหาดแห่งใหม่ของเกาหลีเหนือที่เพิ่งเปิดตัวสู่สายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ สร้างความสนใจและข้อสงสัยมากมาย รีสอร์ตแห่งนี้ ซึ่งเปรียบเสมือน "เบนิดอร์มเวอร์ชันเกาหลีเหนือ" ได้ต้อนรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียชุดแรกเมื่อไม่นานมานี้ พร้อมเปิดเผยแง่มุมของการพักผ่อนที่ไม่เหมือนใคร

 

เบื้องหลังการเดินทางและค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึง

 

นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียกลุ่มแรกมีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ที่วอนซาน คัลมา หลังจากจองแพ็กเกจทัวร์ล่วงหน้าหลายสัปดาห์ การเดินทางเริ่มต้นด้วยเที่ยวบินจากรัสเซียสู่กรุงเปียงยาง ก่อนที่แผนจะเปลี่ยนเป็นการนั่งรถไฟสุดพิเศษไปยังเมืองวอนซาน เนื่องจากเที่ยวบินภายในประเทศถูกยกเลิกอย่างกะทันหัน บล็อกเกอร์สาว ดาเรีย ซุบโควา หนึ่งในผู้ร่วมทริปเล่าว่ารถไฟขบวนนี้มีเพียง 13 คนเท่านั้น แม้จะเป็นการเดินทางที่แปลกใหม่ แต่เธอก็ประทับใจกับความทันสมัยและความสะดวกสบายของรถไฟ รวมถึงทิวทัศน์ชนบทที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวเกาหลีเหนือ

เรื่องค่าใช้จ่ายก็เป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจ แพ็กเกจพื้นฐานสำหรับชาวรัสเซียอยู่ที่ประมาณ 1,360 ปอนด์ (ประมาณ 58,000 บาท) โดยมีเงื่อนไขพิเศษคือต้องชำระเงินสดจำนวน 1,035 ปอนด์ (ประมาณ 44,000 บาท) เป็นธนบัตรดอลลาร์สหรัฐที่ "ใหม่เอี่ยม ไม่มีรอยขีดเขียนใดๆ" ซึ่งแตกต่างจากการชำระเงินในสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมสำหรับห้องพักเดี่ยวและบริการระดับเฟิร์สคลาสที่ไม่รวมอยู่ในราคาเริ่มต้น สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนในการจัดการการเงินภายในประเทศ


ประสบการณ์แปลกใหม่กับการดูแลที่ใกล้ชิด

 

วอนซาน คัลมา ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่พักผ่อนริมทะเลทั่วไป นักท่องเที่ยวบางรายเล่าถึงการถูกเจ้าหน้าที่ประกบติดตลอดเวลา ซึ่งอาจสร้างความอึดอัดใจอยู่บ้าง ดาเรีย ซุบโควา อธิบายว่าการดูแลที่ใกล้ชิดนี้ถูกนำเสนอในรูปแบบของ "ความห่วงใยอย่างน่ารัก" โดยเจ้าหน้าที่มักจะอ้างว่า "พวกเขาเป็นห่วงว่าเราจะหลงทางหรือมีอะไรเกิดขึ้น" ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการสอดแนมที่อาจเกิดขึ้น

แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับการถูกดักฟังอุปกรณ์สื่อสาร แต่ดาเรียก็กล่าวว่าเธอและเพื่อนร่วมทริปไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว เพราะไม่ได้มีสิ่งใดที่พูดแล้วจะนำไปสู่ปัญหาหรือการถูกตำหนิ เธอชื่นชมโครงสร้างพื้นฐานของรีสอร์ตที่ "ล้ำสมัย" รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าและรถรางที่ใช้รับส่งนักท่องเที่ยว ซึ่งดูเหมือนจะสวนทางกับภาพลักษณ์ของประเทศที่มักถูกมองว่าล้าหลัง


รีสอร์ตที่สร้างบนพื้นที่เดิมของขีปนาวุธ

 

สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ การก่อสร้างรีสอร์ตแห่งนี้บนพื้นที่ที่เคยเป็นเขตทดสอบขีปนาวุธมาก่อน ซึ่งเป็นจุดที่เกาหลีเหนือมักจะทำการทดสอบอาวุธยุทโธปกรณ์ ภาพนักท่องเที่ยวที่กำลังเอนกายบนชายหาดทรายขาวที่สร้างขึ้นใหม่ และลงเล่นน้ำในทะเลญี่ปุ่นอย่างเพลิดเพลิน จึงเป็นภาพที่ตัดกันอย่างสิ้นเชิงกับอดีตของพื้นที่แห่งนี้ รีสอร์ตวอนซาน คัลมา ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 7 ปี และอ้างว่าสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 20,000 คน แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว เก้าอี้อาบแดดส่วนใหญ่ยังคงว่างเปล่าในวันแรกๆ ของการเปิดรับนักท่องเที่ยว


บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่เหมือนใคร

 

นักท่องเที่ยวในวอนซาน คัลมา ได้รับแจ้งว่าการส่งอีเมลแต่ละฉบับมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1.65 ปอนด์ (ประมาณ 70 บาท) พร้อมคำเตือนที่ระบุว่า "ข้อความของคุณอาจถูกทางการตรวจสอบได้" และอีเมลจะถูกส่งจากกล่องอีเมลของโรงแรม ไม่ใช่ของผู้เข้าพักโดยตรง ซึ่งสะท้อนถึงการควบคุมการสื่อสารที่เข้มงวด นอกจากนี้ ผู้เข้าพักยังได้รับคำแนะนำให้เตรียมชา กาแฟ และน้ำตาลมาเอง เนื่องจากไม่มีให้บริการในรีสอร์ต

อย่างไรก็ตาม ดาเรียและเพื่อนร่วมทริปก็ประทับใจในความพยายามของพนักงานรีสอร์ตที่ "พยายามอย่างเต็มที่" เพื่อสร้างความพึงพอใจ โดยมีการจัดเตรียมอาหารเนื้อสัตว์และปลาหลากหลายประเภท ซึ่งตรงข้ามกับคำเตือนที่ว่าผลไม้จะไม่อยู่ในเมนู การบริการที่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น การจัดหากาน้ำร้อนหรือเครื่องเสียงทันทีที่ร้องขอ ยิ่งเพิ่มความรู้สึกที่ดีให้กับนักท่องเที่ยว


ความประทับใจและการมองโลกในแง่ดี

 

แม้จะมีข้อจำกัดและความแปลกประหลาดหลายอย่าง แต่ดาเรีย ซุบโควา ก็กล่าวว่าเธอรู้สึก "โชคดี" ที่ได้เป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่มีโอกาสสำรวจวอนซาน คัลมา และบรรยายถึงวันหยุดครั้งนี้ว่าเป็น "การพักผ่อนอย่างแท้จริง" เพื่อนร่วมทริปอย่างพาฟลา แกมบัล ก็เสริมว่า "เราชอบทุกอย่าง ทะเลอุ่น ชายหาดสะอาด มีระเบียบเรียบร้อย พื้นที่โดยรอบก็ดูแลอย่างดี อาหารก็อร่อยมาก กินได้จริง ๆ" สะท้อนให้เห็นว่าในภาพรวมแล้ว นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ค่อนข้างพึงพอใจกับประสบการณ์ที่ได้รับ

วอนซาน คัลมา ไม่เพียงเป็นโครงการที่ คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือกล่าวถึงว่าเป็น "ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี" แต่ยังเป็นหมุดหมายที่กำลังเปิดประตูสู่โลกภายนอกในแบบที่เกาหลีเหนือเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์เอง และเป็นข้อพิสูจน์ถึงความพยายามของประเทศในการพัฒนาการท่องเที่ยว แม้จะยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมที่เข้มงวดก็ตาม